คราวก่อนได้บอกเล่ากล่าวขานกันถึงเรื่องความประมาท ทำให้นึกถึงเรื่องที่เกิดก่อนหน้าไม่นานมานี้ ซึ่งก็จะถือเป็นเรื่องประมาทก็ด้าย แต่ก็ไม่วายทำให้นึกเรื่องความขื้ลืมของน้องๆ นั่นล่ะครับ เป็นเรื่องที่ถือปฏิบัติกันเป็นปกติ แต่ลืมแค่ครั้งเดียวก็เพียงพอที่จะเกิดเรื่องได้แล้วครับ โดยเฉพาะในตอนที่ดวงกะลังตกพอดี๊พอดี
อาจจะเป็นข่าวคราวครึกโครมเมื่อกลางเดือนที่แล้วนะครับ กรณีที่ถูก รปภ.ลักเงินไป จริงๆก็ไม่มาก แค่ก้อนเดียว เพียงแต่มันเป็นก้อนแบงก์พันครับ ไม่ใช่ก้อนแบงค์ยี่สิบ แทนที่จะเป็นสองหมื่นมันก็เลยเป็นหนึ่งล้าน ก็เท่านั้นเอง
มาดูกันครับว่า มันเกิดขึ้นได้อย่างไร เนื่องจากเหตุมันเกิดอยู่ภายในสาขา ก่อนอื่นต้องมาดูกันว่าในสาขาเรามีบุคคลากรประกอบกำลังกันด้วยใครบ้าง อันดับแรก ก็ ผู้บริหารสาขา ผู้ช่วย หัวหน้า พนักงาน และที่ขาดไม่ได้ คือ แม่บ้าน และ พนักงานรักษาความปลอดภัย
สำหรับตัวพนักงานไม่ว่าตำแหน่งใด ก็จะอยู่ในความรับผิดชอบของธนาคารอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นลูกจ้างประจำครับ ประวัติต่างๆและการอบรมให้รู้ถึงการปฏิบัติงานและโทษที่จะได้รับจากความผิดพลาดและการเจตนากระทำทุจริต ก็ทราบกันดีอยู่แล้ว ส่วนแม่บ้านกับพนักงานรักษาความปลอดภัย จะเป็นบุคคลากรที่สรรหามาโดยกิจการในเครือธนาคาร แน่นอนครับ การอบรมถึงการปฏิบัติและวินัยพนักงานย่อมแตกต่างกับพนักงานสังกัดธนาคาร อีกทั้งคุณวุฒิและความรับผิดชอบย่อมแตกต่างกัน พนักงานธนาคารจะมีส่วนที่ต้องรับผิดชอบมากกว่าโดยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่องตัวเงิน
ฉะนั้น พื้นที่ที่เป็นส่วนที่ต้องใช้ความปลอดภัยและรับผิดชอบเป็นอย่างสูง จึงต้องเป็นอำนาจหน้าที่ของพนักงานธนาคาร แม่บ้านและ รปภ. มิอาจเข้าพื้นที่ High Secure นี้ได้ เว้นแต่
1.แม่บ้าน เข้าไปทำความสะอาด แต่ก็ควรจะมีพนักงานธนาคารอยู่ด้วย ซึ่งเวลาที่แม่บ้านจะเข้าไปก็ควรจะเป็นก่อนเบิกถุงเหลืองและเงินสด อีกครั้งก็หลังจากเช็คโต๊กกันแล้ว ในระหว่างวันเวลาทำการมิควรอย่างยิ่ง
2.ในบางสาขาที่พื้นที่ค่อนข้างจำกัด โดยเฉพาะสาขาในห้าง ก็น่าเห็นใจครับ ช่วยกันดูแลแม่บ้านที่เข้าไปนั่งห้อง Back officeด้วยนะครับ ที่น่าห่วงใยที่สุดก็คือ บริเวณห้องที่มีตู้ Volt กับบริเวณครัวที่แม่บ้าน มักจะจัดเป็นที่วางอาหารให้ แล้วก็ถือเป็นที่นั่งทำการของแม่บ้านไปด้วย เป็นห่วงครับ ห่วงมากๆ
3.ส่วนพนักงานรักษาความปลอดภัย หรือ รปภ.สาขา พื้นที่รักษาการณ์ของพี่แกก็เป็นบริเวณที่ Service Planer บริการลูกค้าในการเขียนสลิป กับ บริเวณประตูทางเข้าออกสาขาเป็นหลัก ครับ วัตถุประสงค์เพื่อสกัดคนร้าย หรือเป็นหูเป็นตาหากมีบุคคลต้องด้วยลักษณะบุรุษโทษ 10 ประการ อันอาจสงสัยได้ว่าเป็นโจร ก็จะได้เตือนพนักงานในสาขาได้ก่อน ฉะนั้น หากพี่แกไปช่วยเขียนสลิป ประหนึ่งเป็นเวร Service Planner หรือไปค้นหาเอกสาร เย็บสลิป นั่นหมายความว่า พื้นที่รักษาความปลอดภัยของพี่แกเริ่มเสี่ยงแระ
หน้าที่หลักๆ สำคัญๆ ก็เบื้องต้นประมาณนี้ หากต้องการทราบรายละเอียดก็หาอ่านในระเบียบละกันนะครับ เพราะมันจะเยอะ
ที่นี้ย้อนมาดูพื้นที่จะเรียกได้ว่า เป็น High Secure หรือผมจะเรียกว่าRed Zone เลยก็ว่าได้ นั่นหมายความว่า เป็นพื้นที่ ต้องใช้ความระมัดระวัง ระดับสูงสุด ก็คือ พื้นที่ที่มีเงินสดของธนาคารระหว่างวันทำการอยู่ ได้แก่ พื้นที่ ปฏิบัติงานของพนักงาน High Counter Low Counter โต๊ะแคชเชียร์ และ ตู้ Volt (ส่วนหลังตู้ ATM ไม่ขอกล่าวนะครับ) โดยเฉพาะ
บริเวณด้านที่พนักงานนั่งปฏิบัติการ และเวลาทำการ น่าจะเป็นที่ทราบกันดีว่า ห้าม แม่บ้าน และ รปภ. เข้าเด็ดขาด เพราะมันเกิดมาหลายเคส แล้วครับ ถึงจะมีกล้อง CCTV จับภาพได้ ก็มิอาจรับประกันว่าจะไม่กล้าทำผิดกัน
สำหรับเรื่องนี้ ที่เกิดขึ้นได้ เหตุมีอยู่นิดเดียวครับ เหตุเนื่องจาก น้องสวย (นามสมมติ) ติ๊ต่างว่าทำหน้าที่แคชเชียร์ในวันดังกล่าว ซึ่งในลิ้นชักย่อมมีเงินสดมากกว่าลิ้นชักของ Atแน่นอนครับ ในวันดวงตก เอ๊ย!! วันเกิดเหตุ ปรากฎว่า น้องสวย เกิดปวดท้องไปเข้าห้องน้ำ แต่ด้วยความที่คิดว่า เห็นว่ามีเพื่อนพนักงานอยู่ใกล้ๆ หรือด้วยความรีบที่ปวดท้องก็มิทราบได้ แกรีบไปโดยที่ปิดลิ้นชักที่เก็บเงินสดไว้ โดยไม่ได้ล็อค (ถึงล็อคก็เอากุญแจคาไว้ อิอิอิ แล้วจาล็อคทำมายยย)
ปรากฎว่า นายสมชั่ว (นามสมมติอีกเช่นกัน) เป็นรปภ.ที่ถูกส่งมาประจำสาขานี้ได้เดือนกว่าๆก็ได้เฝ้าสังเกตมาตลอดว่า พนักงานคนไหนมักจะไม่ล็อค หรือล็อคก็เอากุญแจคาไว้ อีกทั้งบางทีหลังปิดทำการ ก็จะมีปาร์ตี้ส้มตำกันอย่างสม่ำเสมอระหว่างที่เช็คโต๊ก บังเอิ๊ญ วันนี้ ระหว่างปาร์ตี้ส้มตำกำลังเริ่ม เหลือเพียงน้องสวยฯ คนเดียวที่ยังเช็คโต๊กไม่เสร็จ แล้วเกิดปวดท้องไปเข้าห้องน้ำ จึงไม่เหลือคราย อยู่ในพื้นที่ Red Zone ระหว่างนั้น แม่บ้าน ก็กำลังสาละวนอยู่กับการเติมน้ำจิ้มไก่ย่าง และเสริฟ ตั๊กกะแตนทอด จึงไม่เหลือครายเรย นอกจากอีตาสมชั่วฯ มานจึงได้ถือโอกาสเข้าไปในพื้นที่ Red Zone ถือถุงดำทำทีไปช่วยขนขยะออกมา โดยไม่มีครายสงสัยในน้ำใจของนายสมชั่วฯ แสดงว่าแกมีน้ำใจช่วยบ่อย อ่ะคับ(ใจ เจง เจง ใจ....)
กว่าจะรู้อีกที ก็ตอนเช็คโต๊ก แล้วเงินมานขาดล่ะคับ ทีนี้ก็มันส์ล่ะครับ ท่านผู้ชม ท้าง AT ท้างแคชเชียร์ก็ร่วมสนุกกับทางรายการ ก่อนอื่นก็ Till กระจาย กลับไปกลับมา ยาวเป็นหางว่าวกันละครับ กว่าจะสงบศึกกันได้ ก็ต้องมานั่งไล่สลิป ไล่ Report ยี่ต๊อก กันกว่าจะถึงบางอ้อ!! ก็ต้องมีท่าจบ คือ CCTV ล่ะครับ ถึงได้รู้ว่า เป็น อีตาสมชั่วฯ นี่เอง ที่อาศัยจังหวะมาช่วยขนขยะในพื้นที่ Red Zone ไปทิ้ง แอบเปิดลิ้นชัก หยิบไปเงินก้อนนึง ทันใดนั้นเอง ทีมFraud ก็จามกันใหญ่ ลักษณะอาการคล้ายๆเหมือนงานจะเข้าล่ะครับ ทันทีที่ Incident เข้าระบบก็ถึงคิวทีม Fraud ได้ลงไปร่วมสนุกกับทางรายการ งานนี้เป็นทีม External Fraud ครับ เพราะ รปภ. สังกัด กิจการในเครือ ไม่ใช่สังกัดธนาคาร กระพ๊มเรยรอดตัวไป แต่ก็ในเวลาไม่นานครับ ทีมExternal ก็โชว์ผลงานเข้าตากรรมการ ประสานงานกับตำรวจสายสืบ จับกุมได้ในเวลาอันรวดเร็ว เล่นเอาไม่ได้หลับไม่ได้นอนกันหลายวันทีเดียว
ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้น ขอเป็นความลับในส่วนราษฎร โดยจรรยาบรรณ มิอาจเปิดเผยได้ เด็กอายุต่ำกว่า 25 ควรมีผู้ปกครองแนะนำ อิอิอิ
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ทุกครั้งที่มีส้มตำปาร์ตี้ ต้องมี รปภ. และแม่บ้าน อยู่ด้วยนะค๊าบบบบ 555