วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

บ๊าย บาย SCB บ๊าย บาย Tony Walker


           คงเป็นที่ฟ้าเบื้องบน เป็นคนขีดโชคชะตา

                   สั่งฉันและเธอให้มา ได้มาพบเจอกัน

                    ให้ฉันได้มีโอกาส ลิ้มรสในความชื่นบาน

                       ให้เรามีกัน มีวันเวลาที่ดี............

                   และเป็นที่ฟ้าเบื้องบน เป็นคนพรากเราเช่นกัน

                ให้เวลาเพียงแค่นั้น กลับต้องเสียเธอไป

          ฉันรู้ว่าไม่มีหวังจะเหนี่ยว และรั้งเธอไว้ข้างกาย

       จะทำยังไง ก็คงไม่มีหนทาง........

   มีพบ ก็ต้องมีจาก เป็นธรรมดา  ขอบคุณนะครับ ที่ติดตามผลงานกันตลอดมา คงไม่มีโอกาสได้มาฝากผลงานแล้ว ก็ร่ำลากันตรงนี้เลยนะครับ  น้องๆสาขา ก็รักษาเนื้อรักษาตัวกันด้วยนะค้าบ เป็นห่วงอยู่เสมอ  สำหรับงานเขียนนี้ ก็ไม่สงวนลิขสิทธิสำหรับ SCB นะครับ แต่คำผิดมานเยอะไปหน่อย ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

   การเปลี่ยนแปลงบางอย่างมันก็มิอาจแสดงเหตุผลได้ แต่บางครั้ง ถ้าเราต้องทำอะไรเพื่อรักษาศักดิ์ศรี บางทีมันก็อยู่เหนือเหตุผล  ถึงจะกินไม่ได้ แต่มานเท่ห์ คับพี่น้อง 555

    ดีใจที่ได้มีโอกาสได้ร่วมงาน และได้บอกกล่าวเรื่องราวประสบการณ์มาฝากน้องๆ ขอบคุณที่ให้ความสนใจติดตามอ่านกัน จนทุกบล็อกของ TONY WALKER ติดChart Top hit ตลอด  ต่อไปชื่อ Tony Walker ก็คงเป็นแค่เรื่องราวในความทรงจำของชาวบล็อก SCB space และคงหายไปในไม่ช้า แต่สิ่งหนึ่งที่อยากฝากไว้ก็คือ ทำบุญ ทำทานกันเยอะๆ นะค๊าบ น้องๆ ลดความเสี่ยงในโอกาสที่ผิดพลาดได้จิงๆ ม่ายเชื่ออย่าลบหลู่ ของเค้าดีจริง อิอิอิ

 ปล. รักและเป็นห่วงพวกเราชาว SCB ทุกคน ค๊าบบบบ

วันจันทร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2555

กระเป๋า(เหลือง)แบน แฟนทิ้ง


คนรักจากลา ตอนชะตาของพี่ตกต่ำ กลับบ้านตอนค่ำ เห็นเพียงห้องเปล่าใจหาย กระดาษแผ่นน้อย เขียนคำร่ำลาฝากไว้ อ่านแล้วทรุดลงร้องไห้ โธ่เป็นไปได้หรือนี่”

เพลงดังของเอกราช สุวรรณภูมิ อ่ะคับ ไม่รู้เคยได้ฟังกันบ้างรึป่าว พอดีเนื้อหามันโดนตา หัวข้อเรื่องเคส มันโดนใจกับชื่อเพลง เลยเกี่ยวมาตั้งหัวเรื่องกันซะหน่อย ครับ น้องสาขาคงเดากันได้ไม่ยากนะครับ ว่าเรื่องกระเป๋า นี่ มันมีอยู่เรื่องเดียวที่เกี่ยวกับสาขา กระเป๋าเหลืองนี่ล่ะครับ ที่ใช้บรรจุเงินสดย่อยไว้ทอนระหว่างวัน ยังไม่ได้สืบสาวราวเรื่องว่า ความเป็นมาในการใช้กระเป๋าเหลืองนี่ มีมานานยัง เท่าที่สอบถามจากบรรดากุนซือท้างหลาย ก็มีประโยชน์ไว้เพื่อ โต้กให้ไว เพราะเศษตังค์มานเยอะ ไม่ง้านกว่าจะได้เลิกงานกันก็ปาเข้าไปสองสามชั่วโมง หลังจากปิดสาขา เข้าใจว่าน่าจะเป็นสมัยนานมาแระ


แต่ในยุค 3G (ทันสมัยซะด้วย เพิ่งประมูลกันไป ตามหลังเพื่อนบ้านติดๆ ห่างกันแค่ ปีระบบ ICT เราพัฒนากันถึงขั้น ไม่ต้องคิดเลขกันในใจแระ เพราะแค่มีนิ้วอย่างน้อย นิ้ว ก็สามารถคิดคำนวณเลขหลักล้านได้ภายในพริบตา ปัญหาก็อยู่แค่ตอนนับตังค์ของจริงให้มันเท่ากับ ตัวเลขที่โชว์ในระบบนี่แหระ ยากจิงๆขอยืนยัน Shot กันได้ทุกวัน 5555 (มีน้องๆสาขายืนยันมานะ ป่าวคิดเองฉะนั้น การคำนวณตัวเลขการทำรายการ สามารถจิ้มได้เรย เทียบกับสลิปรายการที่ทำก็น่าจะตรวจสอบได้ง่าย ฉะนั้นเงินย่อยที่จะใส่กระเป๋าเหลือง ก็เข้าใจว่า ยุคสมัยนี้ คงจะหมายถึงประเภท แบงค์สิบ (อ่อ ไม่น่าจะมีแระยี่สิบ ห้าสิบ ร้อย อ่ะเต็มที่ก็ห้าร้อย แต่เท่าที่สุ่มเช็ค เจอแต่แบงค์พัน (แถวบ้าน กระพ๊ม ตั้งแต่แบงก์ห้าร้อย ก็ไม่เรียกเศษตังค์แร้วววว)



ถ้าภาษาตำรวจ เค้าจะเรียกการนำเงินสดย่อยมาแจกแจงรายละเอียดว่าสั้นๆ ว่า “จำหน่าย” สมมติว่า มีเศษเหรียญ สี่ร้อย แบงก์ยี่สิบ อีกสี่พันสอง แบงก์ห้าสิบอีกพันนึง รวมเป็น ห้าพันหก ก็จะจำหน่ายยอด ห้าพันหก ออกจากเงินสดสุดท้ายที่นำส่งแคชเชียร์ เพราะแคชเชียร์เหมือนคนคุมสต็อกสินค้าส่ง เล็กๆแกไม่ ใหญ่ๆให้แกเรย ถ้าให้พี่แคชเชียร์แกมานับเศษตังค์ล่ะก้อ กว่าจะโต้ก ก็คงจะผับเปิดพอดี แล้วทีนี้มันจะยาว กระเป๋าเหลือง ก็เลยถือกำเนิดขึ้นเพื่อความรวดเร็ว ซึ่งจริงๆก็เข้าใจว่า ก่อนส่งก็คงจะสลับกับ ATโต๊ะอื่น ตรวจสอบกันด้วย แต่ในทางปฏิบัติม่ายรู้อ่ะ รู้แต่ว่า รู้เรื่องกันตอนเช้าทุกทีว่าขาด แสดงว่าตอนเย็นไม่ได้สลับกันนับใช่ป่ะ นี่ถ้ามีคนเซ็นตรวจด้วยน่าจะดี(น้องสาขาบอก หาเรื่องให้เหนื่อยอีกแระ)



ทีนี้ถ้าตอนเย็นไม่มีการตรวจทานสลับกันนับเงินสดในกระเป๋าเหลืองกับ AT โต๊ะข้างๆ นั่นหมายความว่า ถ้าเงินไม่ครบ ก็จะไปรู้เรื่องอีกทีตอนเช้าที่ต้องสลับกระเป๋าเหลือง ให้ AT โต๊ะอื่น ใช้แทน ความถึงแตกใช่ป่ะ



ทีนี้ลองมาคิดกันเล่นๆนะครับ ถ้ามีจอมยุทธ สามารถใช้กระเป๋าเหลืองใบเดิมได้ทุกวันล่ะครับ อะไรจะเกิดขึ้น ฝากผู้บริหารสาขาไปคิดให้หนาวกันเล่นๆนะครับ เพราะผมเคยถามไปเล่นๆ เมื่อนานมาแระ ได้รับการยืนยันว่า ท้างกระพ๊มม และ เดี๊ยนนนน ตรวจทุ๊กกกวัน ไม่มีทาง ที่เด็กจะใช้กระเป๋าเหลืองใบเดิมได้



จริงๆเคสนี้ ไม่ได้เกิดจากกระเป๋าเหลือง ครับ แต่เกิดจากการทำรายการเท็จที่ลูกค้าไม่ได้มาทำด้วยตนเอง แน่นอนครับ “เงินมี เงินพี่ต้องเอามา นี่พี่ไม่มา ก็แสดงว่าเงินไม่มี” ถ้าเงินไม่มีมาจริง แต่มีรายการฝากจริง มานจะโต๊กได้ยางงงายล่ะค๊าบพี่น้อง ก็ต้องShot สิค๊าบบบ แล้วทำยังไงไม่ให้มีคนรู้ว่ามัน Shot ล่ะ ก็จำหน่ายใส่กระเป๋าเหลือง สิค๊าบบบ แต่ยังไงก็ต้องถูกจับได้เพราะผู้บริหารสาขาแกตรวจกระเป๋าเหลืองทุกวัน ต้องเจอภายในเย็นน้านทันที ใช่ป่ะคับ ท่านผู้บริหารสาขา กระพ๊มเชื่อมือ แต่ทะมายจอมยุทธเราถึงกล้านี่สิ แปลกใจ จิง จิง งง จางเรย



นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า กระเป๋า(เหลือง)แบน แต่แจ้งยอดเต็ม ถึงแฟนจะทิ้ง ก็มาซบอก Fraud ไปเท่ว Hong Krong กันได้ ค๊าบบบบ

วันจันทร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ลืมล็อค ก้อ น๊อคสิค๊าบ พี่น้อง


คราวก่อนได้บอกเล่ากล่าวขานกันถึงเรื่องความประมาท ทำให้นึกถึงเรื่องที่เกิดก่อนหน้าไม่นานมานี้ ซึ่งก็จะถือเป็นเรื่องประมาทก็ด้าย แต่ก็ไม่วายทำให้นึกเรื่องความขื้ลืมของน้องๆ นั่นล่ะครับ เป็นเรื่องที่ถือปฏิบัติกันเป็นปกติ แต่ลืมแค่ครั้งเดียวก็เพียงพอที่จะเกิดเรื่องได้แล้วครับ โดยเฉพาะในตอนที่ดวงกะลังตกพอดี๊พอดี

อาจจะเป็นข่าวคราวครึกโครมเมื่อกลางเดือนที่แล้วนะครับ กรณีที่ถูก รปภ.ลักเงินไป จริงๆก็ไม่มาก แค่ก้อนเดียว เพียงแต่มันเป็นก้อนแบงก์พันครับ ไม่ใช่ก้อนแบงค์ยี่สิบ แทนที่จะเป็นสองหมื่นมันก็เลยเป็นหนึ่งล้าน ก็เท่านั้นเอง

มาดูกันครับว่า มันเกิดขึ้นได้อย่างไร เนื่องจากเหตุมันเกิดอยู่ภายในสาขา ก่อนอื่นต้องมาดูกันว่าในสาขาเรามีบุคคลากรประกอบกำลังกันด้วยใครบ้าง อันดับแรก ก็ ผู้บริหารสาขา ผู้ช่วย หัวหน้า พนักงาน และที่ขาดไม่ได้ คือ แม่บ้าน และ พนักงานรักษาความปลอดภัย

สำหรับตัวพนักงานไม่ว่าตำแหน่งใด ก็จะอยู่ในความรับผิดชอบของธนาคารอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นลูกจ้างประจำครับ ประวัติต่างๆและการอบรมให้รู้ถึงการปฏิบัติงานและโทษที่จะได้รับจากความผิดพลาดและการเจตนากระทำทุจริต ก็ทราบกันดีอยู่แล้ว ส่วนแม่บ้านกับพนักงานรักษาความปลอดภัย จะเป็นบุคคลากรที่สรรหามาโดยกิจการในเครือธนาคาร แน่นอนครับ การอบรมถึงการปฏิบัติและวินัยพนักงานย่อมแตกต่างกับพนักงานสังกัดธนาคาร อีกทั้งคุณวุฒิและความรับผิดชอบย่อมแตกต่างกัน พนักงานธนาคารจะมีส่วนที่ต้องรับผิดชอบมากกว่าโดยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่องตัวเงิน

ฉะนั้น พื้นที่ที่เป็นส่วนที่ต้องใช้ความปลอดภัยและรับผิดชอบเป็นอย่างสูง จึงต้องเป็นอำนาจหน้าที่ของพนักงานธนาคาร แม่บ้านและ รปภมิอาจเข้าพื้นที่ High Secure นี้ได้ เว้นแต่

1.แม่บ้าน เข้าไปทำความสะอาด แต่ก็ควรจะมีพนักงานธนาคารอยู่ด้วย ซึ่งเวลาที่แม่บ้านจะเข้าไปก็ควรจะเป็นก่อนเบิกถุงเหลืองและเงินสด อีกครั้งก็หลังจากเช็คโต๊กกันแล้ว ในระหว่างวันเวลาทำการมิควรอย่างยิ่ง
2.ในบางสาขาที่พื้นที่ค่อนข้างจำกัด โดยเฉพาะสาขาในห้าง ก็น่าเห็นใจครับ ช่วยกันดูแลแม่บ้านที่เข้าไปนั่งห้อง Back officeด้วยนะครับ ที่น่าห่วงใยที่สุดก็คือ บริเวณห้องที่มีตู้ Volt กับบริเวณครัวที่แม่บ้าน มักจะจัดเป็นที่วางอาหารให้ แล้วก็ถือเป็นที่นั่งทำการของแม่บ้านไปด้วย เป็นห่วงครับ ห่วงมากๆ
3.ส่วนพนักงานรักษาความปลอดภัย หรือ รปภ.สาขา พื้นที่รักษาการณ์ของพี่แกก็เป็นบริเวณที่ Service Planer บริการลูกค้าในการเขียนสลิป กับ บริเวณประตูทางเข้าออกสาขาเป็นหลัก ครับ วัตถุประสงค์เพื่อสกัดคนร้าย หรือเป็นหูเป็นตาหากมีบุคคลต้องด้วยลักษณะบุรุษโทษ 10 ประการ อันอาจสงสัยได้ว่าเป็นโจร ก็จะได้เตือนพนักงานในสาขาได้ก่อน ฉะนั้น หากพี่แกไปช่วยเขียนสลิป ประหนึ่งเป็นเวร Service Planner หรือไปค้นหาเอกสาร เย็บสลิป นั่นหมายความว่า พื้นที่รักษาความปลอดภัยของพี่แกเริ่มเสี่ยงแระ

หน้าที่หลักๆ สำคัญๆ ก็เบื้องต้นประมาณนี้ หากต้องการทราบรายละเอียดก็หาอ่านในระเบียบละกันนะครับ เพราะมันจะเยอะ

ที่นี้ย้อนมาดูพื้นที่จะเรียกได้ว่า เป็น High Secure หรือผมจะเรียกว่าRed Zone เลยก็ว่าได้ นั่นหมายความว่า เป็นพื้นที่ ต้องใช้ความระมัดระวัง ระดับสูงสุด ก็คือ พื้นที่ที่มีเงินสดของธนาคารระหว่างวันทำการอยู่ ได้แก่ พื้นที่ ปฏิบัติงานของพนักงาน High Counter Low Counter โต๊ะแคชเชียร์ และ ตู้ Volt (ส่วนหลังตู้ ATM ไม่ขอกล่าวนะครับโดยเฉพาะ

บริเวณด้านที่พนักงานนั่งปฏิบัติการ และเวลาทำการ น่าจะเป็นที่ทราบกันดีว่า ห้าม แม่บ้าน และ รปภเข้าเด็ดขาด เพราะมันเกิดมาหลายเคส แล้วครับ ถึงจะมีกล้อง CCTV จับภาพได้ ก็มิอาจรับประกันว่าจะไม่กล้าทำผิดกัน

สำหรับเรื่องนี้ ที่เกิดขึ้นได้ เหตุมีอยู่นิดเดียวครับ เหตุเนื่องจาก น้องสวย (นามสมมติติ๊ต่างว่าทำหน้าที่แคชเชียร์ในวันดังกล่าว ซึ่งในลิ้นชักย่อมมีเงินสดมากกว่าลิ้นชักของ Atแน่นอนครับ ในวันดวงตก เอ๊ย!! วันเกิดเหตุ ปรากฎว่า น้องสวย เกิดปวดท้องไปเข้าห้องน้ำ แต่ด้วยความที่คิดว่า เห็นว่ามีเพื่อนพนักงานอยู่ใกล้ๆ หรือด้วยความรีบที่ปวดท้องก็มิทราบได้ แกรีบไปโดยที่ปิดลิ้นชักที่เก็บเงินสดไว้ โดยไม่ได้ล็อค (ถึงล็อคก็เอากุญแจคาไว้ อิอิอิ แล้วจาล็อคทำมายยย)



ปรากฎว่า นายสมชั่ว (นามสมมติอีกเช่นกันเป็นรปภ.ที่ถูกส่งมาประจำสาขานี้ได้เดือนกว่าๆก็ได้เฝ้าสังเกตมาตลอดว่า พนักงานคนไหนมักจะไม่ล็อค หรือล็อคก็เอากุญแจคาไว้ อีกทั้งบางทีหลังปิดทำการ ก็จะมีปาร์ตี้ส้มตำกันอย่างสม่ำเสมอระหว่างที่เช็คโต๊ก บังเอิ๊ญ วันนี้ ระหว่างปาร์ตี้ส้มตำกำลังเริ่ม เหลือเพียงน้องสวยฯ คนเดียวที่ยังเช็คโต๊กไม่เสร็จ แล้วเกิดปวดท้องไปเข้าห้องน้ำ จึงไม่เหลือคราย อยู่ในพื้นที่ Red Zone ระหว่างนั้น แม่บ้าน ก็กำลังสาละวนอยู่กับการเติมน้ำจิ้มไก่ย่าง และเสริฟ ตั๊กกะแตนทอด จึงไม่เหลือครายเรย นอกจากอีตาสมชั่วฯ มานจึงได้ถือโอกาสเข้าไปในพื้นที่ Red Zone ถือถุงดำทำทีไปช่วยขนขยะออกมา โดยไม่มีครายสงสัยในน้ำใจของนายสมชั่วฯ แสดงว่าแกมีน้ำใจช่วยบ่อย อ่ะคับ(ใจ เจง เจง ใจ....)



กว่าจะรู้อีกที ก็ตอนเช็คโต๊ก แล้วเงินมานขาดล่ะคับ ทีนี้ก็มันส์ล่ะครับ ท่านผู้ชม ท้าง AT ท้างแคชเชียร์ก็ร่วมสนุกกับทางรายการ ก่อนอื่นก็ Till กระจาย กลับไปกลับมา ยาวเป็นหางว่าวกันละครับ กว่าจะสงบศึกกันได้ ก็ต้องมานั่งไล่สลิป ไล่ Report ยี่ต๊อก กันกว่าจะถึงบางอ้อ!! ก็ต้องมีท่าจบ คือ CCTV ล่ะครับ ถึงได้รู้ว่า เป็น อีตาสมชั่วฯ นี่เอง ที่อาศัยจังหวะมาช่วยขนขยะในพื้นที่ Red Zone ไปทิ้ง แอบเปิดลิ้นชัก หยิบไปเงินก้อนนึง ทันใดนั้นเอง ทีมFraud ก็จามกันใหญ่ ลักษณะอาการคล้ายๆเหมือนงานจะเข้าล่ะครับ ทันทีที่ Incident เข้าระบบก็ถึงคิวทีม Fraud ได้ลงไปร่วมสนุกกับทางรายการ งานนี้เป็นทีม External Fraud ครับ เพราะ รปภสังกัด กิจการในเครือ ไม่ใช่สังกัดธนาคาร กระพ๊มเรยรอดตัวไป แต่ก็ในเวลาไม่นานครับ ทีมExternal ก็โชว์ผลงานเข้าตากรรมการ ประสานงานกับตำรวจสายสืบ จับกุมได้ในเวลาอันรวดเร็ว เล่นเอาไม่ได้หลับไม่ได้นอนกันหลายวันทีเดียว


ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้น ขอเป็นความลับในส่วนราษฎร โดยจรรยาบรรณ มิอาจเปิดเผยได้ เด็กอายุต่ำกว่า 25 ควรมีผู้ปกครองแนะนำ อิอิอิ



นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ทุกครั้งที่มีส้มตำปาร์ตี้ ต้องมี รปภและแม่บ้าน อยู่ด้วยนะค๊าบบบบ 555

วันพุธที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2555

เผลอล่ะ เจอกาน


      
ในสมัยที่กระพ๊มยังละอ่อนอยู่ในวัยอุดมศึกษา การใช้ชีวิตวัยรุ่นหมดไปกับการเข้าเวรเข้ายาม เพราะอยู่ในช่วงของการเป็นนักเรียนเตรียมทหาร ต่อด้วยชีวิตนักเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน ต้องฝึกฝนอย่างหนัก ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันฝึกอารายขนาดน้าน จบมาก็มานั่งพิมพ์ดีดอยู่โรงพัก 555



แต่สิ่งหนึ่งของการฝึกฝนที่เราต้องทำกันมาตลอดระยะเวลา ปีที่ดินแดนพระราม 4 (โรงเรียนเตรียมทหาร สมัยพ๊ม ตั้งอยู่ที่ข้างสวนลุม ปัจจุบันย้ายไปอยู่เขาชะโงก แระและอีก 4ปี ที่ถูกหล่อหลอมในดินแดนสามพราน ก็คือ การท่องอาขยาน เอ๊ย!! การท่องอุดมการณ์ และคติพจน์ของตำรวจ ก่อนจะทำกิจกรรมอารายซักอย่างก็ต้องมีท่อง ไม่ว่าจะตื่นนอน กินข้าว ฝึก แม้กระทั่งนอน ต้องท่องอารายซักอย่าง นี่โชคดีที่เข้าห้องน้ำไม่ต้องท่องนะ ไม่ง้านก็คงไม่ทันอ่ะ อิอิอิ



มีวลีสุดท้ายตอนหนึ่งของคติพจน์ของตำรวจ ที่พวกเราต้องท่องอยู่ทุกวัน วันละหลายๆครั้งก็คือ “รักษาความไม่ประมาท เสมอชีวิต” ซึ่งในสมัยเรียนพวกเรามักจะแปลงเป็น รักษาตู้เตียงให้สะอาดตลอดอาทิตย์ (ไม่ง้านอาทิตย์น้านโดนกักบริเวณ ไม่ได้กลับบ้านพล่ามเริ่มจะยาว ว่า การรักษาความไม่ประมาท มันเกี่ยวอะไรกับงานในหน้าที่ของพนักงานแบงก์น่ะหรือ เพราะในส่วนของตำรวจ หากประมาทเมื่อไหร่ อาจเสียชีวิตได้เพราะเราต้องอยู่ท่ามกลางอริราชศัตรู แต่พนักงานแบงก์ล่ะ ทำไมต้องรักษาความไม่ประมาทขนาดน้าน ก็เรื่องที่จะบอกกล่าวกันมันก็เป็นเพราะความประมาทนี่ล่ะครับ



เชื่อได้ว่า มีการสื่อความกันทุกเช้าทุกเย็นไม่เว้นแม้แต่ตอนไปปาร์ตี้หลังเลิกงาน ห้ามเปิดเครื่องทิ้งไว้นะน้องๆ ก่อนลุกจากเก้าอี้ ให้ Lock out จากระบบทุกครั้ง อย่าเปิดหน้าจอทิ้งไว้ อย่าให้ใครมานั่งเครื่องแทน แต่ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า น้องๆจะจำกันแม่นได้เท่ากับเป้าหมายที่ต้องพุ่งชนรึป่าว นะ อิอิอิ


เรื่องก็มีอยู่ว่า น้องสวย(นามสมมติวันนี้โชคเข้าข้างเธอจับสลากได้เป็น AT ในทำเลทอง Low Counter แน่นอนครับ โอกาสในการปิดยอดขายต้องมีสูง ส่วนการทำรายการก็จะหนักไปทางรับเปิดบัญชี โอกาสในการนำเสนอ Product ก็มีไม่น้อยทีเดียว ช่วงระหว่างที่ทำรายการ ก็เป็นธรรมดาต้องมีแทรกโฆษณาคั่นรายการตลอด ปรากฎว่า ในวันเกิดเหตุ มีลูกค้ามาขอเปิดบัญชีใหม่แล้วทำบัตร ATM ซึ่งไม่แน่ใจว่า ระหว่างการทำรายการ กับโฆษณาคั่นอันไหนจะใช้เวลามากกว่ากัน อิอิ ปรากฎว่า ระหว่างทำรายการเปิดบัตร ATM อยู่ ลูกค้าเกิดสนใจProduct ขึ้นมา แน่นอนครับ เลือกไม่น่ายากเร้ย ว่าจะทำอะไรก่อน อิอิ น้องสวยก็ต้องรีบเดินไปหยิบโบรว์ชัวร์มานำเสนอ แต่เจ้ากรรมดันหาโบรว์ชัวร์ไม่เจอ เลยเสียเวลาค้น ด้วยเกรงว่า หากทำรายการเสร็จเรียบร้อยแล้วก่อนแล้ว ลูกค้ามักจะมีธุระด่วน และจะขอมาฟังต่อวันหลังทุ๊กที ไม่รู้เป็นไร จำเป็นต้องค้างรายการไว้ แล้วรีบไปหยิบโบรว์ชัวร์มาให้ดู เด๊วลูกค้าแกจะมีธุระก่อนซะ


ระหว่างนั้น คุณพระ!! เรื่องไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้น น..ขี้เหร่ (นามสมมติอีกเช่นกันซึ่งนั่งทำรายการอยู่เคาท์เตอร์ติดกัน ไม่รู้แกเกิดนึกอะไรขึ้นมา ประมาณว่า ลูกค้ารายนี้สูงอายุแระ คงไม่ใช้INTERNET BANKING หรอกกระมัง อาศัยช่วงจังหวะที่ น้องสวย ไปหยิบโบรว์ชัวร์ อยู่ น..ขี้เหร่ แกแอบดูข้อมูลส่วนตัวของลูกค้ารายนี้ (ไม่ขอเปิดเผยนะครับว่า ข้อมูลอะไรบ้าง เป็นความลับทางราษฎรเท่านั้นยังไม่พอ แกแอบไปคีย์อะไรก็ไม่รู้ใส่ในข้อมูลลูกค้าด้วย(ความลับอีก)



หลังจากนั้น น้องสวย ก็กลับมานำเสนอ Product ต่อ และแล้วก็สามารถปิดการขายได้สำเร็จ แล้วจึงทำรายการเปิดบัญชี และบัตร ATM ให้ลูกค้าเรียบร้อย โดยหารู้ไม่ว่า ระหว่างนั้นข้อมูลลูกค้าได้ถูก น..ขี้เหร่ฯ แอบคีย์อะไรไปก็ไม่รู้ แม้แต่sup ครับsup ทันทีที่ระฆังหมดยกดัง ติ้ง แกก็เดินมาอนุมัติให้ โดยไม่รู้ว่ามีเหตุอะไรเกิดขึ้นระหว่างการทำรายการ การเปิดบัญชีจึงสมบูรณ์ ครับ

ตรงนี้เอง ครับ ที่ต้องการชี้ให้เห็นถึงความประมาทระหว่างการทำรายการ หากน้องสวย ทำรายการตลอดต่อเนื่องจนเสร็จสิ้นรายการสมบูรณ์แล้ว จึงไปหยิบโบรว์ชัวร์มานำเสนอสินค้าให้กับลูกค้า น..ขี้เหร่ โต๊ะข้างๆก็คงไม่มีโอกาสได้มาแอบคีย์ข้อมูลลูกค้าแล้วแอบดูข้อมูลลูกค้าหรอกครั



สิ่งที่ น..ขี้เหร่ ทำต่อไปก็คือ เอาข้อมูลลูกค้าคนดังกล่าวไปเปิดInternet Banking แล้วกระทำทุจริตกับบัญชีลูกค้ารายนี้ ครับ เห็นหรือยังครับ เผลอ!!แค่แป๊บเดียว ก็เจอพวกเดียวกันเล่นงานเอาซะแร้ว งานนี้เป็นทีม Fraud Internet นะครับ เข้าจับกุมที่สาขาเรย โดยที่เจ้าตัวยังไม่รู้ตัวว่าถูกจับได้ว่าทุจริต



เรื่องก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่เล่านะครับ กว่าจะสืบสวนได้ว่าใครเป็นคนผิด น้องสวย ก็เกือบซวยซะแล้ว เพราะเป็นคนทำรายการ นี่ถ้าทีม Fraud สืบไม่เจอ ว่าคนทุจริตที่แท้จริง คือใครแน่ คนที่แย่ท่าทางจะเป็นน้องสวย เห็นหรือยังครับ น้องๆ “รักษาความไม่ประมาทเสมอชีวิต” มิฉะนั้นอาจกลายเป็นคนทุจริตโดยประมาทได้ นะคร๊าบบบบ



นิทานเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า ประมาทนิดเดียว ก็เสียวด้ายยยยยย

วันพุธที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2555

อี่นี่แขกมาแลกตังค์ นะนายจ๋า

           หลังจากได้หยุดพักมาบ้าง ก็ได้มีโอกาสชมมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ ทำเอาไม่ค่อยได้หลับได้นอนกันเรยคับ ช่วงนี้ ลุ้นเหรียญกันมันส์มาก ถึงแม้จะไม่ใช่ชาติเราก็เหอะ ขอได้ลุ้นไว้ก่อน  
         
           จริงๆแล้วช่วงมีมหกรรมกีฬาจะไม่ค่อยมีเหตุให้ Fraud ต้องเหนื่อยกานซ๊ากเท่าไหร่ แต่ปรากฎว่ามีเรื่องแปลกๆ ที่ห่างหายไปนาน มานได้กลับมาถือโอกาสออกแสดงฝีมือกานอีกแล้วค๊าบพี่น้อง ไม่ใช่ครายที่ไหน ก็พวกนักท่องเที่ยวนี่ล่ะครับ มักจะมีกลุ่มมิจฉาชีพปะปนมากับนักท่องเที่ยวจริง ที่เข้ามาเยี่ยมชม AMEZING THAILAND ซึ่งกลุ่มนี้ปกติจะมีพฤติการณ์เข้ามาแลกเงินตราต่างประเทศที่บูธแลกเงิน คับ แต่คราวนี้มาแปลก มานกล้ามากกกก เข้ามาที่สาขาเลย นับถือใจจริงๆ  

             ก่อนอื่นก็ต้องท้าวความพฤติการณ์ของแก๊งค์แขกขาวนี้ซะหน่อยนะคับ กลุ่มนี้จะมีพฤติการณ์ดังนี้    
             1. เข้ามาที่ Booth Exchange แล้วมาขอแลกธนบัตร USD ในจำนวนที่น้อยประมาณ 100 $ ซึ่งแน่นอนคับเงินจำนวนนี้ พนักงานพิจารณาแล้วถ้าลูกค้าไม่ได้นำหนังสือเดินทางมาก็อาจจะอลุ้มอล่วยได้ วัตถุประสงค์ก็เพื่อต้องการดูตอนที่พนักงานดึงลิ้นชักออกมามี ปึกธนบัตรในลิ้นชักเยอะมั๊ย โดยขั้นตอนนี้จะเป็นไปตามปกติของการแลกเงินเพื่อไม่ให้พนักงานเราสงสัย
              2. เมื่อมีการแลกเงิน 100 $ เรียบร้อยแล้ว ก็จะดำเนินการในขั้นตอนต่อไปคือ จะขอเปลี่ยนธนบัตรที่ได้รับการแลกมา ให้มีอักษรเลขสวย คือ ตัวเลขเรียงกัน เลขตอง หรือไม่ก็ ให้มีอักษรขึ้นต้นด้วย ตัว T เหตุผลเค้าก็อ้างสารพัด ที่นิยมก็คือ T คือTHAILAND ดูมานอ้างขุ่นๆ แต่ก็เอาเถอะ
              3. และเมื่อพนักงานเราหยิบแนบธนบัตรจากลิ้นชักมาหาฉบับที่มีอักษรตัว T หรือเลขสวยก็ตาม เจ้าคนร้ายนี้ก็จะพยายามเอื้อมมือมาวุ่นวายกับธนบัตรในมือพนักงานเรา โดยจะให้พนักงานดึงแหนบ หรือหนังยางที่มัด ออก เพื่อคลี่ธนบัตรออกเป็นรูปพัด   จริงๆ ถ้าจะไม่ดึงแหนบออกก็สามารถค้นหาได้ อักษรตัว T เนี่ย แต่ที่มานให้ดึงออกเพราะมานจะปฏิบัติการต่อไปครับ 
              4. หากผ่านขั้นตอนที่ 3 ไปแล้ว ธนบัตรถูกดึงแหนบหรือหนังยางรัดออก มานก็จะถือวิสาสะเอื้อมมาหยิบธนบัตรจากมือพนักงาน เพื่อไปค้นหาอักษรตัว T แต่จะทำต่อหน้าพนักงานประมาณหนึ่งว่าแสดงความบริสุทธิใจว่าค้นหาต่อหน้า แต่ด้วยความชำนาญ ขนาดเซียนไพ่ยังมองไม่ทัน มันจะสับธนบัตรเหมือนไพ่ ตัดครึ่งกองบนมาซ้อนกองล่าง แค่เนี้ยะ มันสามารถใช้นิ้วก้อยพับม้วนธนบัตรกองล่างไปได้แล้วอย่างน้อยสิบใบ มาไว้ในอุ้งมือมัน โดยพนักงานมองไม่ทัน 
             5. จากนั้นมานก็จะคืนธนบัตรให้พนักงาน โดยยอมรับว่าหาอักษรตัว T ไม่เจอเหมือนกัน ประหนึ่งว่าเป็นเหตุการณ์ปกติ ซึ่งกว่าหากพนักงานนับทวนธนบัตรหลังจากได้รับการส่งคืนในทันที มานก็จะรีบวิ่งหนีออกจาก Booth ไปทันที เนื่องจากส่วนใหญ่ Booth จะตั้งอยู่ในพื้นที่เปิด ทำให้มานหนีได้สะดวก   
             แต่ปรากฎว่า พฤติการณ์ครั้งนี้ มานเข้ามาที่สาขา คับพี่น้อง ซึ่งเป็นพื้นที่ปิด แสดงให้เห็นว่า มันต้องมั่นใจอะไรบางอย่างว่า ไม่ต้องวิ่งหนีเหมือนไปทำที่ Booth นั่นก็คือ มันต้องปฏิบัติการแล้ว พนักงานต้องไม่สามารถนับเงินทันทีเมื่อได้รับธนบัตรคืน เพราะอะไรหรือคับ ก็เพราะมีลูกค้าคิวต่อไปต้องเข้ามาทำรายการต่อทันที ฉะนั้น มันจะเล็งไปที่ High Counter เท่านั้น ครับ เพราะถ้าไปปฏิบัติการที่ Low Counter จะทำให้พนักงานมีเวลานับเงินต่อหน้า และทราบว่าเงินขาดทันที   นี่เป็นขั้นตอนพฤติการณ์ของคนร้ายครับ ที่กำลังออกปฏิบัติการในเขตที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เดาไม่ยากนะครับ ว่าที่ไหนบ้าง แต่ที่อยากจะนำเสนอต่อไปนี้ เป็นเรื่องที่ต้องขอชื่นชมในความร่วมมือของน้องๆสาขา ประกอบกับการใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ มิใช่เพื่อการบันเทิงเพียงอย่างเดียว นะคับ   
             หลังจากที่สาขาแรกถูกแขกมาแลกตังค์แล้วเล่นกลเอาเงินไปได้ ทีม Fraud ได้เข้าไปตรวจสอบความเสียหาย แล้วเชื่อว่า มานน่าจะทำที่สาขาอื่นอีกเร็วๆนี้ จึงได้หยิบ iphone คู่กาย ถ่ายรูปหน้าคนร้าย กระจายให้น้องๆในสาขาใกล้เคียงช่วยกันส่ง ไปยังน้องๆที่รู้จักในสาขาใกล้เคียง ผ่านApp Line ซึ่งเชื่อว่าหลายท่านคงใช้อยู่ ปรากฎว่า มีน้องสาขา แจ้งมาว่า ลูกค้าเคยเล่าให้ฟังว่าเคยโดนคนร้ายกลุ่มนี้มาแลกตังค์แล้วโดนเหมือนกัน ทำให้เราได้ข้อมูลและไปพบลูกค้าขอภาพคนร้ายจากนั้นก็ประสานไปยังตำรวจที่อยู่ในเครือข่ายของเรา ส่งภาพไปให้ ปรากฎว่า ทางตำรวจก็ส่งภาพมาให้ดูว่า พบคนร้ายหน้าตาใกล้เคียง ก็ส่งภาพทาง Line มาให้น้องสาขาที่เกิดเหตุดูปรากฎว่าใช่คนเดียวกัน ด้วยความร่วมแรงร่วมใจของน้องสาขา ทีม Fraud และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถประสานงานกันได้อย่างรวดเร็ว โดยเจ้าคนร้ายมานคงไม่คิดว่าเราจะรู้ตัวได้เร็ว ขณะมานกำลัง ลั๊ลล๊า ไล่ Shop ไปตามสาขาต่างๆ และธนาคารอื่น ปรากฎว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไปล็อคตัวมานมาเรียบร้อยโดยใช้เวลาแค่อาทิตย์เดียว ซึ่งก่อนหน้านี้ มานหนีได้มาเป็นปี งานนี้ขอปรบมือให้น้องๆสาขา ค๊าบบบ(โดยเฉพาะน้องคนแรกที่แจ้งข้อมูลมาน๊าาาาาา)   

ปล.นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า Together We Can เหอ เหอ เหอ

วันพุธที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2555

เรื่องของ slip ที่ทำให้ไม่ sleep

  นับว่าเป็นช่วงเกาะติดกระแสบอลยูโร จริงๆเรย คับ ช่วงนี้ทีม Fraud ต้องแพ็คกระเป๋าเสื้อผ้าพร้อมอุปกรณ์ยังชีพ 2 วันติดตัวกันตลอด เนื่องจากมีกระแสตอบรับไม่แพ้ยูโร ชนิดติดขอบสนามกันเลยทีเดียว อยู่ๆ ก็ได้รับจดหมายเชิญให้ไปเที่ยวสาขากระทันหัน โชคดีที่ช่วงนี้เตรียมฟิตร่างกาย เอาชุดกีฬามาเตรียมพร้อมสำหรับออกกำลังกายมาด้วย ก็เลยได้ไปสาขาแบบไม่ทันได้เก็บของ ถ้าเห็น Fraudแต่งชุดนอกเครื่องแบบ ไม่ต้องสงสัยนะครับ แต่ยังไงก็พกบัตรพนักงานให้ตรวจสอบกัน ได้ บางทีเหตุมันด่วนจริงๆ ถ้ากลับบ้านไปเก็บเสื้อผ้า อาจไม่ทันการณ์   จริงๆ เหตุที่เกิดกับเรื่องนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร เพียงแต่อายุงานของพนักงานที่ทำรายการมานน้อยลงไปทุกที ประมาณเยาวชนที่มีคลิปในโรงหนัง ทำนองน้านเรย(เด็กขึ้นเรื่อยๆ อิอิอิ) จากการศึกษาข้อมูลสถิติอาชญากรรมจะพบว่าอายุผู้กระทำผิดจะน้อยลงไปเรื่อยๆ ฉะนั้นท่านผู้บริหารสาขาก็อย่าประมาทพนักงานที่อายุงานน้อยนะครับ เพราะใหม่ที่นี่ อาจจะเก่ามาจากที่อื่นก็ได้ น๊าาาา ตะเอง   ต้นสายปลายเหตุมาจากเรื่องอะไรนั้น ยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัด แต่ผลจากการกระทำของจอมยุทธสาวเรานั้น บอกได้เรยว่า กล้ามากกกกก!!! แบบชนิดหยิบเงินจากลิ้นชักไปใส่กระเป๋า เอาโต้งๆเรย แต่ที่น่าแปลกก็คือ เพื่อนพนักงานที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็ไม่ทันสังเกต ซึ่งจากการดูกล้องก็มีเรื่องฮาอยู่ไม่น้อย เพราะอะไรรู้มั๊ยคับ จอมยุทธสาวเรานับเงินวางไว้บนโต๊ะเพื่อเตรียมจะลักใส่กระเป๋าเสื้อ เพื่อนที่นั่งข้างๆ กะลังเห่อไอโฟนที่เพิ่งถอยมาใหม่ ก็เลยหันไปถ่ายรูป ไอ้เจ้าจอมยุทธสาวต๊กกะจายยย นึกว่าเพื่อนพนักงานด้วยกัน จับได้ ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน เอาผิด ที่ไหนได้ถ่ายรูปเพื่ออวดไอโฟนใหม่กานซะง้าน เล่นเอาจอมยุทธเรากว่าจะตั้งตัวได้ นิ่งไปนานเหมือนกัน ที่หนักกว่าน้านก็คือ ไอ้เงินที่ลักมาน่ะ เอามาให้เพื่อนพนักงานทำรายการฝากเข้าบัญชีตัวเองเฉยเรย เพื่อนพนักงานก็ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ มีตังค์มาก็ทำรายการให้หมด เรื่องนี้ กระพ๊ม ก็เตือนทุ๊กสาขาที่ไป แต่คำตอบที่ได้ก็คือ ง้านต่อไปก็ต้องไปฝากสาขาม๊างง หรือไม่ก็ จะให้หนูแล้งน้ำใจให้เพื่อนไปทำรายการที่ตู้ฝากรึงาย!!! ไอ้เราก็ได้แต่บอกว่า ง้านก็มาร่วมสนุกกับทางรายการด้วยละกัน ให้ Fraud ตรวจสอบว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องก่อนละกาน ค่อยกลับไปนั่งเครื่องใหม่ !!!   แต่ในที่สุดเชื่อเถอะครับ คนทำผิดยังไงพระเจ้าก็ไม่เข้าข้าง วันดีคืนดี ลูกค้าตรวจสอบยอดเงินในบัญชี เห็นว่าหายไป ยังไงก็ต้องมาร้องเรียนอยู่ดี ความก็ต้องแตก แต่ที่แสบกว่าน้าน ก็คือ ขณะลูกค้ามาร้องเรียน จอมยุทธเรายังสามารถหลบหนีออกจากสาขาไปได้ก่อนที่ครายจะรู้ว่าทำผิดอะไรไว้ แถมยังมีปลายนวมก่อนอีกนิสนุง เฮ้อ!! นี่ขนาดเพิ่งสอบปากกาแดงมาได้ไม่นานนะเนี่ยยย   ส่วนวิธีการที่จะทำให้เงินสดหายไปแล้ว สามารถทำให้ยอดเงิน โต๊ก ได้นั้น แน่นอนครับ มันต้องเป็นการถอนที่ผิดแน่นอน ปัญหาก็คือ แล้วในการตรวจสอบสลิปหลังปิดทำการนี่สิ งานนี้บอกได้เลยครับ ว่า ถ้ามีการตรวจนับสลิปกันทุกวัน จับได้ตั้งแต่วันแรกๆแล้ว ครับ แต่ก็อีกนั่นล่ะครับ จอมยุทธเรากล้าทำได้ ก็แสดงว่า เค้าสังเกตมานานแล้วว่า ไม่มีการตรวจนับสลิปตอนเย็น เค้าถึงกล้าทำ   เหตุครั้งนี้ ท้างยืนยัน นอนยัน ฟันธง คอนเฟิร์ม ได้เลยครับ ว่า หลังปิดทำการ ไม่ได้ตรวจนับสลิปกันครับ เพราะสลิปไม่ครบแน่นอน ถึงยอดเงินในระบบกับยอดเงินสดนำส่งสิ้นวันจะโต๊ก ก็ตาม ส่วนรายละเอียดวิธีการที่ทำให้มั่นใจว่าสลิปไม่ครบในแต่ละวันนั้น ไม่สามารถนำเสนอได้ครับ คราย อยากรู้ก็หลังไมค์ละกัน ม่ายก้าออนแอร์ เด๊ว !! ปาปารัสเซี่ยน จะมาสัมภาษณ์ซะ 5555   นิทานเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า ถ้าอยาก Sleep ตาหลับทุกวัน ก็ต้องนับ Slip ว่าครบทุกวันนะค๊าบบ อ้อ!! แล้วอย่าลืมเย็บและมัดเลยน๊า อย่าไปใส่แฟ้มห่วง เพราะมันถอดออกได้ค๊าบ พี่น้อง

วันพฤหัสบดีที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ได้ กับ ได้ ม่ายมีเสีย ถ้า......

  ​หลังจากไม่อยู่ซะหลายวัน เปิดเมล์มา พบว่า มีการแจ้งเตือนจากผู้บริหาร ให้ความห่วงใยกับกระแส ฟุตบอลยูโร ซึ่งจริงๆแล้วก็น่าเป็นห่วงอยู่ไม่น้อย แต่ก็ไม่จำกัดเฉพาะยูโร หรือบอลโลก แม้ว่าจะไม่มีทีมบอลไทยเข้าชิงชัยก็ตาม (จะเข้าชิงได้งายระค๊าบบอลโลก เพราะบอลไทยเราติดเข้ารอบมวยโลก อยู่แร้วววว อิอิอิ)   ​สื่อทุกแขนงโดยเฉพาะโทรทัศน์ ทุกช่อง ต่างแย่งชิงสิทธิการถ่ายทอด       เพราะต่างก็รู้ว่าเป็น  กระแสที่ได้รับความนิยม ทำให้ผู้รับชมทั่วไปที่ไม่ค่อยสนใจก็ตื่นตัว ไม่เว้นแม้กระทั่ง บรรดาโต๊ะบอล ที่รับแทง ต่างออกโปรโมชั่นต่างๆนาๆ เพื่อดึงลูกค้าเข้าพอร์ต ก็น่าเป็นห่วงอยู่ไม่น้อยนะครับ ยังไง ผู้บังคับบัญชาก็จับตาดูบรรดาเซียนในมือหน่อยค๊าบ เพราะช่วงนี้ Incident ถล่มทีม Fraud มาเป็นสึนามิ เร้ยยยย!!!   ​เรื่องนี้ก็มีที่มาจากกีฬาแขงหนึ่งล่ะคับ ถึงแม้จะไม่ใช่กระแสบอลยูโร  แต่พระเอกของเราก็เป็นนักฟุตบอลคับ และก็หนีไม่พ้นเรื่องกีฬา ขนาดคนไม่เตะบอล มานยังแทง แล้วนี่นักกีฬาโดยสายเลือด ก็มีใจรักเป็นพิเศษ  แม้ว่าจะติดทำเนียบยอดนักขายก็ตาม แต่หากมีเหตุเช่นนี้ รับรองได้ ไม่มีครายเอาไว้ล่ะคับ เพราะเป็นนโยบายที่เข้มแข็งมาก ลองได้ทุจริตก็ได้โปรโมชั่นเดียว บินฟรี Hong Krong (One way ticket) มี Fraud นำทัวร์คับ   ​โหมโรงมายาวเรย เข้าเรื่องละกัน สมมติพระนามตามท้องเรื่อง พระเอกของเราชื่อ โรนัลโด้ ดีกรีเป็นถึงจอมยุทธพิชิตเป้ายอดขายทะลายประตู NonLike (แปลว่า ไม่ชอบ อิอิอิ) โดยปกติจะไม่ค่อยได้นั่งเครื่อง จะมีนั่งก็นิดๆหน่อยๆ เพราะส่วนใหญ่ต้องไปออกตลอด เอ๊ย! ออกตลาด  เคราะห์หามยามดี วันนี้ได้นั่งเครื่องก็เลยได้มาทำหน้าที่ AT กะเค้าบ้าง และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียมือ แน่นอนครับ  Low Counter ทำเลทอง ดักหน้าประตูเข้าสาขาอีกต่างหาก  แล้ววันนี้ก็ดั๊นน บังเอิญมีลูกค้ารายหญ่ายยย (อีกแล้ว) มาขอปิดบัญชีฝากประจำ  เห็นตัวเลขในสมุดบัญชีก็เข้าทางสิค๊าบบบ อย่ากระนั้นเรย ขืนปล่อยให้ปิด ก็จะเสียชื่อจอมยุทธเปล่าๆ ก็เลยต้องแนะนำให้เปิดใหม่อีกบัญชีเพื่อฝากเงินต่อ เงินจะได้ขังอยู่ในแบงก์เราเช่นเดิม (สมกับเป็นจอมยุทธ เจง เจง) ดังต้องมนต์สะกด ลูกค้าเห็นดีเห็นงามด้วย เนื่องจากมีดอกเบี้ยที่น่าสนใจ ก็เลยเปิดใหม่ดังใจว่า เรื่องราวก็น่าจะจบแต่เพียงเท่านี้ แต่แล้วเกิดอะไรขึ้น มาดูการเขียนสลิปถอนเงินครับ   ​ในการเขียนสลิปใบถอนสำหรับบัญชีเงินฝากประจำ ลูกค้าก็เขียนยอดเงินต้นที่จะถอน ส่วนดอกเบี้ยเมื่อคำนวณแล้ว จะปรากฎตามรอยเครื่องปรินท์ ซึ่งจะแสดงยอดเงินต้น และคิดดอกเบี้ยให้ หักภาษีและรวมเป็นยอดดอกเบี้ยจ่ายให้ ในบรรทัดที่สอง ซึ่งจะเป็นยอดรวมเงินต้นและดอกเบี้ยจ่ายให้เสร็จ  แน่นอนครับ มันจะต้องเป็นยอดเงินรวมที่สูงกว่ายอดเงินต้นที่ลูกค้าเขียนถอนในช่องจำนวนเงินอยู่แล้ว  เท่าที่สอบถามน้องๆสาขาอื่นก็ได้รับชี้แจงว่าปฏิบัติสืบทอดต่อๆกันมานานแล้ว แต่เป็นระเบียบที่ถูกต้องหรือไม่นั้น ไม่ยืนยัน ยังไงถ้าผู้รู้ได้มาอ่านช่วย Comment ระเบียบให้ด้วยนะครับ จักขอบพระคุณยิ่ง (ช่วงนี้งานเข้าเยอะครับ ยังไม่มีเวลา search) ซึ่งเมื่อถามว่า    แล้วไม่เคยลืมจ่ายดอกเบี้ยให้ลูกค้า รึ คำตอบคือ บ่อยมาก!!!!  แต่ก็เมื่อสิ้นวันทำการมีเงินเกินในระบบก็ตั้งพักเก็บไว้แล้วหาสาเหตุ เมื่อพบก็จะแจ้งลูกค้าให้มารับ หรือไม่ ลูกค้าก็จะมาสอบถามถึงดอกเบี้ย ซึ่งเมื่อตรวจสอบพบว่าลืมจ่ายก็จะจ่ายให้ลูกค้าไป    โอ้แม่จ้าววววว!!!   ​นี่ก็เป็นที่มาของจอมยุทธโรนัลโด้เราครับ พี่แกลืมจ่ายดอกเบี้ย เพราะเอาเฉพาะเงินต้นไปเปิดบัญชี แน่นอนครับ เงินสดในส่วนของดอกเลี้ยต้องเกินในลิ้นชักแกแน่  และแล้วความโลภก็ได้ครอบงำ เพราะมีดิวชำระกับโต๊ะบอล  เรื่องไม่เป็นเรื่องก็เลยต้องเป็นเรื่อง  แต่สิ่งที่ไม่น่าทำก็คือ ท้าทายทีม Fraud ให้จับทุจริตให้ได้ โดยยืนยันว่าตัวเองบริสุทธิ์   ซึ่ง Fraudก็เตือนเสมอว่า Fraudมีประสบการณ์ด้านนี้โดยตรง กว่าครึ่งทีมก็เคยเป็นตำรวจท้างน้าน ยังไงก็หาเจอหากมีการทุจริต ตำแหน่ง ผู้จัดการทีมสืบสวนภายในองค์กร ไม่ใช่ได้มาแบบฟลุ๊คๆ ไม่มีฝืมือแบงก์คงไม่จ้างหรอกม๊างงง  (ก็รู้อยู่ว่าแบงก์เราจ่ายค่าจ้าง ใช้คุ้มขนาดไหน อยู่แค่ปีกว่า หงอกเต็มหัวเรยย  อิอิอิ)   ​ส่วนวิธีการทุจริตเอาเงินไปยังไง ไม่ขอกล่าวนะครับ เด๊วจะเป็นสอนจระเข้ให้ว่ายน้ำ 555 ก็ขอเน้นย้ำเตือนไว้ว่า ถึงไม่มีภาพ CCTV ก็ไม่เกินความสามารถ Fraud หรอกค๊าบ แต่ในเมื่อต้องเหนื่อยกว่าจะหาเจอ ก็ขอจัดเต็มทุกข้อหา ทุกกระทง เอาให้หลงทางกันเร้ย  ติดคุกยันลูกบวชเลยละกัน แล้วอย่ามาว่าเค้าใจร้ายนะตัวเอง หุหุหุ ปล. นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ความไม่มี “โลภ”  คือลาภอันประเสริฐ